บทที่ 31 10.2 เข้าหอ

หานไท่หยางลอบพิจารณาการกระทำของนางเพียงนิดแล้วเผลออมยิ้มออกมาอย่างนึกขัน ก่อนที่ทั้งสองจะคล้องแขนดื่มสุราของตนเองรวดเดียวหมดจอก พร้อมกับกลิ่นกำยานที่ลอยโชยมา เป็นกำยานที่เขาสั่งให้หลินกงกงจุดเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่ากำยานนี้โรยด้วยผงปลุกกำหนัดชนิดอ่อนๆ

เพื่อไม่ให้นางและหานอี้ได้ข้องเกี่ยวกันอีก เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อรั้งให้นางมาเป็นของเขาเพียงผู้เดียว

จางอวิ๋นซีดื่มสุราแค่เพียงจอกเดียวเท่านั้น ร่างกายของนางก็แทบรับไม่ไหว รสสุรามงคลนี้ช่างขมคอนางนัก นางดื่มไปได้เพียงอึกเดียวก็รีบฝืนกลืนลงคออย่างรวดเร็ว ต่างจากหานไท่หยางที่มองนางดื่มสุรารวดเดียวพร้อมกับแย้มพระสรวลใส่

“อ่า ขมคอข้านัก ขอน้ำชาหน่อย” นางร้องเสียงแหบพร่า ตอนนี้นางทั้งรู้สึกขมคอและร้อนไปทั่วร่างนัก มือของนางควานสะเปะสะปะอย่างมึนงง แต่ทว่าชาที่นางหมายจะดื่มกลับถูกอ๋องหนุ่มแย่งไปดื่มไว้รวดเดียวหมดจอก

“ท่านทำสิ่งใด นี่ชาของข้านะ!” นางร้องโวยวาย ตอนนี้ขมคอก็ขมแล้วยังต้องมาตั้งหน้าทะเลาะกับสามีหมาดๆ ด้วยหรอเนี่ย

หานไท่หยางไม่เปล่งวาจาอันใด เขารวบตัวหญิงสาวผู้เป็นพระชายากดร่างของนางนอนราบบนเตียง ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่ของตนเองจะทาบทับนางเอาไว้ มิให้นางหนีรอดไปไหน

เขายอมให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับหานอี้แล้ว แต่เขาจะไม่ยอมเสียนางให้หานอี้อย่างเด็ดขาด

“ท่านจะทำอะไร...”  นางร้องถาม แต่ทว่าริมฝีปากกลับถูกฉก

ฉวยโดยคนบนร่างอย่างป่าเถื่อนรุนแรง นางร้องอู้อี้ในลำคอก่อนที่จะรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของนาง

ตอนนี้ร่างกายของนางร้อนผ่าวจนผิดสังเกต ร้อนจนแทบคลั่ง ราวกับ...ราวกับ...นางโดนยาปลุกกำหนัด! ใช่! นางโดนวางยาปลุกกำหนัดเป็นแน่

หญิงสาวพยายามรวบรวมสติและเรี่ยวแรงที่มีเพียงน้อยนิด พยายามต่อต้านชายหนุ่มบนร่างให้ห่างออกจากร่างของนางไป แต่ทว่าแรงเท่าลูกสุนัขเช่นนางน่ะหรือจะอาจหาญต่อต้านแรงบุรุษได้ นางได้แต่ปัดมือสะเปะสะปะพยายามปัดไล่เขาให้ถอยห่างจากร่างของนาง จนหานไท่หยางยอมถอนริมฝีปากออกอย่างรำคาญใจ

“เจ้าเรื่องมากอันใดอีก” คิ้วเข้มของอ๋องหนุ่มขมวดเข้าหากันพลางถามอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ หรือว่ายาที่หลินกงกงวางเอาไว้ในสุราของนางกับกำยานนั้นจะออกฤทธิ์ไม่เต็มที่กัน?

“ข้าโดนยาปลุกกำหนัด ในเมื่อท่านไม่เต็มใจแต่งงานกับข้าก็ให้ข้า...” หานไท่หยางไม่รอให้นางกล่าวจบ เขาก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางที่คิดต่อต้านเขาอีกครั้ง นางคิดจะหาหมอหายาถอนพิษปลุกกำหนัดอย่างนั้นหรือ หากเขาทำเช่นนั้นเขาคงไม่อาจได้ครอบครองนางอย่างสมบูรณ์ คืนนี้ ราตรีนี้ตัวนางจะต้องเป็นของเขา หาใช่ของชายอื่น

อ๋องหนุ่มประทับจูบอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวอ่อนระทวยรวยแรงที่จะต่อต้าน เมื่อฤทธิ์ของสุราผสมกับกลิ่นกำยานหอมปลุกกำหนัดที่หลินกงกงรมเอาไว้นั้น สติสัมปชัญญะของนางพลันกระเจิดกระเจิง ตอนนี้นางต้องการปลดปล่อยเพียงเท่านั้น

หญิงสาวพลิกตัวขึ้นคร่อมเหนืออ๋องหนุ่ม ก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตนเองอย่างเร่งรีบด้วยความร้อนภายในกายที่พุ่งพล่าน หานไท่หยางมองการกระทำของนางแล้วยิ้มอย่างพึงใจ ยานั้นได้ผลดีเกินคาดจริงๆ

ร่างงามเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่ไร้อาภรณ์ปกปิดเย้ายวนสายตาของอ๋องหนุ่มนัก ชายหนุ่มรีบจัดการถอดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองโดยมีหญิงสาวที่สติสัมปชัญญะเตลิดหายไปช่วยถอดเสื้อผ้าของเขาอย่างลืมอาย บัดนี้ทั้งสองร่างเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิด หานไท่หยางรีบพลิกตัวหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเองอย่างรวดเร็ว หากเป็นสตรีอื่นเขาคงอยากให้พวกนางปรนนิบัติเขาเช่นนี้ แต่ติดที่ว่าเขาไม่เคยผ่านสตรีนางใด และจางอวิ๋นซีจะเป็นสตรีคนแรกที่เขาจะปรนเปรอนางตลอดทั้งคืน

“ข้าอยากรู้นัก ว่าระหว่างข้ากับหานอี้ ใครปรนนิบัติเจ้าได้ถึงใจกว่ากัน” หานไท่หยางกระซิบที่ใบหูเล็ก ก่อนจะขบเม้มติ่งหูของอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า เขาขบเม้มทุกส่วนของร่างกายนาง สร้างรอยรักให้เป็นที่

ประจักษ์ เพื่อตอกย้ำว่านางคือของเขาเพียงผู้เดียว

สติของจางอวิ๋นซียากจะต่อต้าน ฤทธิ์ของกำยานปลุกกำหนัดค่อยๆ เล่นงานนางรุนแรงขึ้นทุกทีจนนางยากจะควบคุมตนเองมิให้กระทำเรื่องน่าละอายอีกครั้ง

หลังจากปล่อยสายธารรักเข้ากายสาวทุกหยาดหยด หานไท่หยางซบใบหน้าลงที่เนินอกอิ่มของหญิงสาวที่นอนเหนื่อยหอบกับบทรักที่เขาปรนเปรอให้นางอย่างหนักหน่วง หานไท่หยางใช้ริมฝีปากดูดเลียเม็ดทับทิมสีหวานของนางอีกครั้งราวกับทารกกำลังดื่มน้ำนมจากอกมารดา แล้วซอกไซร้ซอกคอขาวเนียนจนซอกคอของนางมีแต่รอยแดงปรากฏเต็มไปหมด

อ๋องหนุ่มและพระชายาของเขานอนพักด้วยความเหนื่อยหอบ หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ5 ชายหนุ่มจึงปลุกหญิงให้เริ่มบทรักใหม่อีกรอบกับเขาเกือบจนรุ่งสาง เขาปลดปล่อยสายธารทุกหยาดหยดเข้าไปในกายนางอย่างสุขสม จนหลินกงกง หยางกูกูและเฉินหรงต้องยืนให้ห่างออกจากตำหนักใหญ่ พร้อมกับเสียงคำรามลั่นอย่างสุขสมของท่านอ๋องผู้เป็นนายและเสียงหวานครางของผู้เป็นพระชายาดังทั่วตำหนักตลอดทั้งคืน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป